หยุดตรงนี้ที่รัก
“เอาเกียรติและลีลาเป็นประกัน ฉันไม่ใช่คนโกหก”
ผู้เข้าชมรวม
610
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทนำ...
เสียงตึงตังปึงปังต่อเติมห้องข้าง ๆ ทำให้คนเพิ่งนอนเมื่อตอนเกือบตีห้าต้องทะลึ่งลุกพรวดจากที่นอน เขากระชากผ้าปิดตาลายหมูสีชมพูลงแล้วหยีตา สีหน้าง่วงงุนปนหงุดหงิด คิดว่าย้ายคอนโดใหม่แล้วจะได้หลับสบาย อยู่อย่างสงบ ไม่ต้องได้ยินเสียงผัวเมียวางมวยกันตอนดึกดื่น
แต่ดูเถอะ… ไอ้พิชญ์เหมือนถูกพระเจ้าสาปให้ชีวิตการนอนไม่เคยราบรื่น หลับสนิทไม่ถึงเดือนข้างห้องก็ก่อกวนด้วยเสียงก่อสร้างเสียนี่
“แปดโมง ทำงานตรงเวลากันเหลือเกินไอ้ฉิบหาย”
ร่างสูงสบถอย่างหัวเสีย ลงจากเตียงได้ก็เดินดุ่ม ๆ ไปยังประตู ขอถามไถ่สักหน่อยว่าไอ้เสียงโป้งป้างตึงตังจะดังไปถึงเมื่อไร อีกนานไหมกว่าห้องนี้จะเสร็จ
“น้อง…” เสียงห้าวติดกระด้างร้องเรียก ไม่ได้หวานหยดเหมือนดวงตากลมโตที่ใครเห็นก็ต้องออกปากชมว่าสวยหวานยิ่งกว่าผู้หญิง
“คะเพ่… มีไรค้าบ” คนงานที่น่าจะเป็นคนต่างด้าวพยายามออกเสียงให้ชัดเจน
“ได้ยินเสียงดังมาหลายวันแล้ว ทำอะไรเนี่ย เมื่อไรจะเสร็จ เจ้าของห้องเขารู้ไหมว่าห้องข้าง ๆ มีคนอยู่”
“ฮะ ?”
คนงานหนุ่มทำหน้างุนงง ครั้นเห็นว่าไม่น่าจะสนทนากันรู้เรื่องก็ไปตามหัวหน้าที่เป็นคนไทยมา
“ครับผม มีอะไรเหรอครับ” ชายวัยประมาณสี่สิบปีถามอย่างสุภาพ ประสานมือไว้กลางกายอย่างเรียบร้อย ทำเอาคนนอนไม่พอถึงกับใจเย็นลงมาก
“คือผมทำงานกลางคืน เสียงดังแบบนี้นอนไม่ได้เลย”
“เอ่อ… แต่เจ้าของห้องนี้เขาบอกว่าไม่มีคนอยู่นะครับ”
“แล้วผีหรือไงที่ยืนอยู่นี่ ก็บอกแล้วไงว่าทำงานกลางคืน ไม่เห็นกลางวันไม่ได้แปลว่าไม่มีคนอยู่”
พิชญ์ปากเสียเป็นนิสัย น้ำเสียงปกติที่สุดแล้วเพียงแต่คำพูดไม่รื่นหูก็เท่านั้น
“ขอโทษนะครับ เดี๋ยวผมจะบอกคุณเจ้าของห้องนี้ให้” หัวหน้าคนงานก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน สีหน้าลำบากใจ แต่งานก็ยังต้องทำ ไม่อย่างนั้นแล้วจะได้เงินค่าจ้างได้อย่างไร
“เอาเถอะ วันนี้ทำต่อไปแล้วกัน ผมจะไปนอนที่อื่น”
ร่างสูงหมุนตัวเดินออกมา ตอนนั้นเองที่เขาได้เจอกับหญิงสาวรูปร่างหน้าตาแสนคุ้นตา เธอเบิกตาโตเหมือนตกใจที่เห็นเขาเช่นกัน
ปากกระจิริด จมูกนิด ตาโต
ใช่! ใช่เธอจริง ๆ ด้วย…
“โย! หยุดนะ…”
คนขายาวกว่าวิ่งไปดักหน้าอย่างทันท่วงที มือหนายกขึ้นตะปบแผงควบคุมลิฟต์ไว้ ชายหนุ่มวิ่งตามเธอมาโดยไม่ทันคิดว่าสวมกางเกงบ็อกเซอร์ติดกายเพียงชิ้นเดียว
“คะ คุณเป็นใครคะ”
โยษิตาเล่นมุกจำไม่ได้มันเสียเลย ดวงตาโตทว่าเรียวเป็นชั้นเดียวมองคนเปลือยท่อนบนอย่างไม่เกรงใจ หัวใจเธอเต้นแรง ไม่กล้าสู้สายตาเพราะตอนนี้ในหัวมีแต่ภาพลามกของเธอกับเขาเมื่อสองปีก่อนอยู่เต็มไปหมด ตลกร้ายเหลือเกินที่มันแจ่มชัด แทนที่จะซีดหายไปตามกาลเวลา
“ฮะ?”
พิชญ์ร้องถามคล้ายได้ยินไม่ถนัด เอียงใบหน้าหล่อ ๆ สำรวจหญิงสาวที่หายไปในเช้าหลังจากที่ผ่านคืนเร่าร้อนมาด้วยกัน แต่ที่ทำให้เขาฝังใจมาจนทุกวันนี้ก็เป็นเพราะเธอวางเงินสดไว้บนหัวเตียงแล้วเอาลิปสติกทับทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า เขางุนงงว่าค่าอะไร… ค่าตัว ค่าปวดเอว หรือค่าถุงยางอนามัยที่เขาใช้อย่างสิ้นเปลือง
“คะ คุณ เป็นใคร วิ่งตามฉันทำไม”
โยษิตากลั้นใจถามต่อ เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของเขาก็รู้เลยว่าคิดผิดมหันต์
“ใครดีล่ะ คนที่เธอเคยเรียกว่าไอ้พิตบูล พี่พิชญ์ หรือพี่พิชญ์ขา…” คนหน้ากวนเป็นเอกลักษณ์ลากเสียงเลียนแบบเธอในคืนนั้น
“อะ เอ่อ… มีอะไร”
หญิงสาวอึกอัก ตาก็คอยมองแผงลิฟต์อยู่ตลอดเวลา
“จำได้แล้วสินะ” มุมปากหยักได้รูปโค้งขึ้นอย่างพอใจ
“จำได้สิ เพื่อนพี่แพร์ คุณมีอะไรก็พูดมาเถอะค่ะ ฉันรีบ”
เธออยากไปให้พ้น ๆ หน้าเขา ไม่มีอะไรมากกว่านั้น มันไม่น่าจดจำเลยสักนิดเดียว
“พูดเรื่องคืนนั้น ที่เรา…” เขาพูดขึ้นหน้าตาเฉย
“นี่! หยุดนะ” โยษิตาถลาเข้าไปปิดปากคนปากเสียไม่เคยเปลี่ยน แต่ไม่นานเขาก็แกะมือเธอออก คิ้วเข้มขมวดฉับ จ้องกันตาเขม็ง
“อะไรของเธอวะยายนมเปรี้ยว” พิชญ์เลิกคิ้วมองคนที่แทบจะดิ้นเร่า ๆ
แต่ก็นะ… ไม่น่ารีบแกะมือนุ่ม ๆ ออกเลย หอมฉิบหาย!
“อย่าเรียกฉันแบบนั้นอีก” คนโกรธจนหน้าแดงบอกเสียงแหลม
พิชญ์สบตากับหญิงสาว ได้ข่าวว่าไปเรียนไกลถึงเมืองนอก เป็นเพราะอกหักช้ำรักจากพรรัมภาเพื่อนของเขา หรือต้องการหนีหน้าเขาจากเรื่องคืนนั้นกันแน่นะ
โยษิตาดูโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากทั้งคำพูดและการวางตัว ไม่ใช่ยายตุ๊กตากระเบื้องเคลือบจอมง้องแง้งอย่างที่เขาเคยรู้จักเมื่อหลายปีก่อน
“นั่นห้องของเธอเหรอ” พิชญ์บุ้ยปากไปทางที่เธอวิ่งหนีเขามา ทั้งหมดชั้นนี้ก็มีแค่ห้องของเขากับห้องที่กำลังต่อเติมอยู่สองห้องเท่านั้น
“คุณรู้ได้ไง” คนตัวเล็กถามหน้าซื่อ ๆ
“เอ้า…”
พิชญ์ลากเสียง ขอคืนความคิดที่ว่าหญิงสาวดูโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแทบไม่ทัน
เหมือนถูกหลอกด่าด้วยสายตา โยษิตากำลังคิดหาคำพูดอยู่ ตอนนั้นเองโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ค่ะคุณพ่อ” เธอรับสาย เหลือบตามองผู้ชายตัวสูงใหญ่แวบหนึ่งก่อนจะคุยต่อ “ค่ะ เดี๋ยวโยรีบไปนะคะ”
พิชญ์ยืนฟังด้วยความรู้สึกเสียดายอย่างบอกไม่ถูก ดวงตาคมโตของชายหนุ่มมองปากจิ้มลิ้มที่เทียวเม้มเทียวคลาย ภาษากายง่าย ๆ ที่เขาอ่านออกว่าเธอไม่มั่นใจ เขินอายและประหม่า
“ไว้เจอกันนะ คุณนมเปรี้ยว”
ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ ที่ผ่านมาเขาพยายามหาช่องทางติดต่อ ทางโซเชียลเธอก็ไม่เคลื่อนไหวราวกับตั้งใจปล่อยทิ้งร้าง
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ได้ชื่อนั้น!”
โยษิตาตวาดแหว มองคนนิสัยกวนตาขวางขุ่น
“จริงสิ… เธอไม่ได้ชื่อนมเปรี้ยว เพราะนมเธอหวานมาก”
ดวงตาฉายแววร้อยเล่ห์พราวระยับ พิชญ์หลุบตามองต่ำลงไปยังทรวดทรงอย่างจงใจจะกลั่นแกล้ง
“ทุเรศ! ฉันไม่เคยพบเจอใครทุเรศ ปากเสีย นิสัยเสียเท่าคุณมาก่อนเลย” เธอเผลอส่งเสียงแว้ดอย่างหมดความอดทน อยากจะหาอะไรที่คมกว่าเล็บข่วนหน้าหล่อ ๆ นั่นนัก
“รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นคนที่เธอไม่เคยพบเจอ รู้สึกเป็นคนเดียวและเป็นคนแรก… ดีชะมัดเลยแฮะ”
คนยอมรับข้อเสียที่หญิงสาวกล่าวมายิ้มตอบด้วยสีหน้าระรื่น ดวงหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราซับสีแดงจัด เธอเหลือกตาเหมือนอยากจะฆ่าเขาให้ตาย พองลมไว้ที่แก้ม ดูคล้ายกระต่ายตัวขาวปุกปุยกำลังขู่ราชสีห์เจ้าป่าอย่างเขา
“อะ… ไอ้!”
โยษิตาหุบปากฉับ นึกคำด่าที่เหมาะสมไม่ทันจริง ๆ
“ไม่เอา… ไม่พูดคำหยาบนะครับคุณหนูโย”
“ฉันเกลียดคุณนัก!” ร่างกะทัดรัดสะบัดหน้าหนี เธอปัดมือเขาออกแล้วรีบกดลิฟต์ รอไม่นานประตูก็เปิดออก รอไม่ถึงหนึ่งนาทีแต่กลับให้ความรู้สึกนานเหมือนสิบปี
สายตาของเขาเอาแต่จ้องมองรูปร่างของเธออย่างจาบจ้วงไร้มารยาทที่สุด!
“เกลียดอะไรได้อย่างนั้นยายตัวเปี๊ยก”
เขายังหน้ามึนตะโกนเข้าไปตอนที่ประตูลิฟต์กำลังปิด
พิชญ์รู้สึกคันยุบยิบที่ใจฉิบหาย! ดวงตากระหยิ่มยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อครู่อ่อนแสงลง มุมปากหยักกดยิ้มอ่อนโยนอย่างที่หาดู ได้ยาก
บทจะเจอกันก็ได้เจอกันง่าย ๆ เหมือนมีใครผลัก
แต่โทษทีเถอะ… เขาจะไม่ปล่อยให้เธอหายไปง่าย ๆ เหมือนสองปีก่อนแน่ เธอมีส่วนต้องรับผิดชอบที่ทำให้เขางุ่นง่านใจ ไม่มีความคิดจะหลับนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลยนับแต่คืนนั้น
เรื่องนี้รับประกันความควาย ความปากแจ๋วของพี่พิชญ์ค่ะ เพราะผู้เขียนปั้นมากับมือ 555555
กด ♥️ เก็บเข้าชั้นแล้วอย่าลืมคอมเมนต์กันมารัว ๆ นะคะ อยากอ่านความเห็นจากรี้ดค่า ????
ผลงานอื่นๆ ของ Achirahh ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Achirahh
ความคิดเห็น